เกรดกระดาษลูกฟูกเป็นค่าที่ใช้บ่งบอกถึงคุณภาพของกระดาษลูกฟูก โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความหนาของกระดาษ ความแข็งแรงของลอนกระดาษ คุณภาพของกาว เป็นต้น
ความหนาของกระดาษ
ความหนาของกระดาษเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดความแข็งแรงของกระดาษลูกฟูก โดยกระดาษลูกฟูกที่มีน้ำหนักมากกว่าจะมีความแข็งแรงทนทานมากกว่า หน่วยที่ใช้วัดความหนาของกระดาษลูกฟูกคือ แกรม (gsm) ซึ่งหมายถึงน้ำหนักของกระดาษ 1 ตารางเมตร
ความแข็งแรงของลอนกระดาษ
ลอนกระดาษเป็นโครงสร้างหลักของกระดาษลูกฟูก โดยลอนกระดาษที่แข็งแรงจะกระจายแรงกระแทกได้ดี ช่วยปกป้องสินค้าจากการเสียหาย หน่วยที่ใช้วัดความแข็งแรงของลอนกระดาษคือ ดัน (psi) ซึ่งหมายถึงแรงดันที่ใช้ในการยุบลอนกระดาษ 1 นิ้ว
คุณภาพของกาว
กาวที่ใช้ยึดติดชั้นกระดาษของกระดาษลูกฟูกมีความสำคัญต่อความแข็งแรงของกระดาษลูกฟูก กาวที่มีคุณภาพดีจะช่วยให้กระดาษลูกฟูกยึดติดกันได้ดี ป้องกันการฉีกขาด
เกรดกระดาษลูกฟูก
โดยทั่วไปแล้ว เกรดกระดาษลูกฟูกจะแบ่งออกเป็น 3 เกรดหลักๆ ดังนี้
- เกรด A เป็นเกรดกระดาษลูกฟูกที่มีคุณภาพดีที่สุด นิยมนำมาใช้บรรจุสินค้าที่มีน้ำหนักมากและราคาสูง
- เกรด B เป็นเกรดกระดาษลูกฟูกที่มีคุณภาพปานกลาง นิยมนำมาใช้บรรจุสินค้าที่มีน้ำหนักปานกลาง
- เกรด C เป็นเกรดกระดาษลูกฟูกที่มีคุณภาพต่ำสุด นิยมนำมาใช้บรรจุสินค้าที่มีน้ำหนักเบา
ตัวอย่างเกรดกระดาษลูกฟูก
ตัวอย่างเกรดกระดาษลูกฟูก 5 ชั้น ที่นิยมใช้กัน ได้แก่
- KA150/CA125/KA125 เป็นเกรดกระดาษลูกฟูกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด นิยมนำมาใช้บรรจุสินค้าทั่วไป
- KS185/KA125 เป็นเกรดกระดาษลูกฟูกที่มีความแข็งแรงทนทานสูง นิยมนำมาใช้บรรจุสินค้าที่มีน้ำหนักมาก
- KT125/CA125 เป็นเกรดกระดาษลูกฟูกที่มีน้ำหนักเบา นิยมนำมาใช้บรรจุสินค้าที่มีน้ำหนักเบา
การเลือกเกรดกระดาษลูกฟูก
การเลือกเกรดกระดาษลูกฟูกควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทของสินค้า น้ำหนักของสินค้า สภาพแวดล้อมในการขนส่ง เป็นต้น
หากสินค้ามีน้ำหนักมากและราคาสูง ควรเลือกใช้กระดาษลูกฟูกเกรด A เพื่อปกป้องสินค้าจากการเสียหาย
หากสินค้ามีน้ำหนักปานกลาง ควรเลือกใช้กระดาษลูกฟูกเกรด B
หากสินค้ามีน้ำหนักเบา ควรเลือกใช้กระดาษลูกฟูกเกรด C
นอกจากนี้ ควรเลือกกระดาษลูกฟูกที่มีลอนกระดาษที่เหมาะสมกับประเภทของสินค้า เช่น สินค้าที่มีน้ำหนักมากควรใช้กระดาษลูกฟูกที่มีลอนกระดาษขนาดใหญ่ เป็นต้น